หน่วยก๊าซธรรมชาติสามารถใช้เครื่องยนต์แก๊สได้หลายประเภท เช่น เครื่องยนต์สันดาปภายใน กังหันแก๊ส เป็นต้น หน่วยก๊าซธรรมชาติประเภทที่พบบ่อยที่สุด คือ เครื่องยนต์สันดาปภายในจะเผาก๊าซธรรมชาติเพื่อเคลื่อนลูกสูบ ซึ่งจะผลิตพลังงานกลที่ ขับเคลื่อนเครื่องกำเนิดไฟฟ้าเพื่อผลิตไฟฟ้า กังหันก๊าซใช้ก๊าซธรรมชาติเพื่อผลิตก๊าซอุณหภูมิสูงและความดันสูง ซึ่งขับเคลื่อนกังหันให้หมุน และสุดท้ายจะขับเคลื่อนเครื่องกำเนิดไฟฟ้าเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้า
หน่วยก๊าซธรรมชาติมีการใช้กันอย่างแพร่หลายในอุตสาหกรรมพลังงาน การผลิตภาคอุตสาหกรรม และระบบทำความร้อน ไม่เพียงแต่ให้แหล่งจ่ายไฟที่เชื่อถือได้เท่านั้น แต่ยังสามารถใช้คุณลักษณะประสิทธิภาพสูงของก๊าซธรรมชาติได้อย่างเต็มที่ เพื่อลดการสูญเสียพลังงานและมลภาวะต่อสิ่งแวดล้อม เนื่องจากความต้องการพลังงานสะอาดเพิ่มมากขึ้น แนวโน้มการใช้งานหน่วยก๊าซธรรมชาติจึงกว้างมาก
(1) ปริมาณมีเทนไม่ควรต่ำกว่า 95%
(2) อุณหภูมิของก๊าซธรรมชาติควรอยู่ระหว่าง 0-60
(3) ไม่ควรมีสิ่งเจือปนในแก๊ส น้ำในแก๊สควรน้อยกว่า 20g/Nm3
(4) ค่าความร้อนควรมีค่าไม่ต่ำกว่า 8,500kcal/m3 หากน้อยกว่าค่านี้ กำลังของเครื่องยนต์จะลดลง
(5) แรงดันแก๊สควรอยู่ที่ 3-100KPa หากแรงดันน้อยกว่า 3KPa จำเป็นต้องใช้พัดลมเสริม
(6) ก๊าซควรถูกทำให้แห้งและกำจัดซัลเฟอร์ไดซ์ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าไม่มีของเหลวอยู่ในแก๊ส H2S<200มก./Nm3
(1) ปริมาณมีเทนไม่ควรต่ำกว่า 95%
(2) อุณหภูมิของก๊าซธรรมชาติควรอยู่ระหว่าง 0-60
(3) ไม่ควรมีสิ่งเจือปนในแก๊ส น้ำในแก๊สควรน้อยกว่า 20g/Nm3
(4) ค่าความร้อนควรมีค่าไม่ต่ำกว่า 8,500 กิโลแคลอรี/ลบ.ม. หากน้อยกว่าค่านี้ จะใช้กำลังของ
(5) แรงดันแก๊สควรอยู่ที่ 3-100KPa หากแรงดันน้อยกว่า 3KPa จำเป็นต้องใช้พัดลมเสริม
(6) ก๊าซควรถูกทำให้แห้งและกำจัดซัลเฟอร์ไดซ์ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าไม่มีของเหลวอยู่ในแก๊ส H2S<200มก./Nm3